โบท็อกหน้าผาก คืออะไร
โปรแกรมฉีดโบท็อก (Botulinum toxin type A) บริเวณหน้าผากที่มีริ้วรอย โดยการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว ริ้วรอยบริเวณนั้นจะหายไป เวลาที่เราขยับหน้าหรือแสดงสีหน้าต่างๆ ก็ไม่เกิดการพับของผิว
โดยส่วนมากการฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอยมักฉีดบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นเวลาเราแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นบนหน้าผาก รอยตีนกา ยิ่งเวลาผ่านไปริ้วรอยเหล่านี้ยิ่งลึกขึ้น อาจทำให้บางคนเสียความมั่นใจได้ การฉีดโบท็อกหน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยเหล่านี้ได้
ฉีดโบท็อกหน้าผากอันตรายไหม
หลายคนกังวลเพราะการฉีดโบท็อกหน้าผากต้องฉีดในบริเวณที่ใกล้ส่วนสำคัญของใบหน้า ถ้าอยากฉีดโบท็อกหน้าผากอย่างปลอดภัย มีข้อแนะนำดังนี้
1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาติ
2.เลือกแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง แพทย์ต้องสามารถประเมินกล้ามเนื้อในจุดที่จะฉีด ว่าจุดไหนความลึกเท่าไร จุดไหนที่เซลล์เส้นประสาทมาเกาะกล้ามเนื้อ ถ้าฉีดไม่ตรงจุดอาจจะเห็นผลช้าและอยู่ได้สั้นลง รวมไปถึงควรหลีกเลี่ยงเทคนิคการฉีดที่ไม่ได้ฉีดโบท็อกเข้าในกล้ามเนื้อโดยตรงเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยา
3.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นโบท็อกแท้ สามารถตรวจสอบได้ ที่สำคัญที่สุดคนไข้ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้ไว้เบื้องต้น
ฉีดโบท็อกหน้าผาก กี่วันเห็นผล
โดยปกติการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ผิวจะเริ่มตึงขึ้นใน 3-4 วัน หลังฉีดใช้เวลา 7-14 วัน จะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเต็มที่ และระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่เลือกใช้ รวมไปถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกเพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น เมื่อโบท็อกหน้าผากหมดฤทธิ์แล้วสามารถฉีดเพิ่มเพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ
ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อก
ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียมตัวอย่างไร
1.เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น
2.ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป
3.ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์
4.ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง
5.ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบ ๆ
หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร
1.หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
2.งดนอนราบ 3 ชม.
3.หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
4.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ
5.หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
ข้อแนะนำการเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้องและดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามาถตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น การฉีดโบท็อกปลอมเป็นอันตราย ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้นไว้เพื่อความมั่นใจ
Q&A
Q : โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน
A : ฉีดโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน? ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกไม่ได้อยู่ถาวร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-6 เดือน โดยโบท็อกแท้สามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง
Q : โบท็อกกราม อยู่ได้นานแค่ไหน
A : อายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกที่ฉีดโบลดกรามโดยทั่วไป อยู่ได้ 5-6 เดือนครับ หากเป็นโบท็อกริ้วรอย อยู่ได้ 3-4 เดือน
Q : โบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว กี่วันเห็นผล
A : โบท็อกกราม เริ่มเห็นผลตอน 14 วันครับกล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงกัดแล้วไม่เด้ง แต่ยังไม่เห็นว่ายุบ เริ่มเห็นว่ายุบตอน 1 เดือน ยุบเต็มที่ตอน 2-3 เดือน
Q : โบท็อกลดริ้วรอย เห็นผลเมื่อไหร่
A : โบท็อกริ้วรอยปกติจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลตอน 3-7 วันครับ เห็นผลเต็มที่ 14 วัน
Q : ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าจะตอบ จริงหรือไม่
A : โบท็อกลดกรามในตำแหน่งที่ถูกต้องจะไม่ทำให้แก้มตอบครับ ถ้าฉีดไม่ดีแก้มจะตอบ โหนกแก้มเด่นขึ้น และแก้มห้อย หรืออาจทำให้ยิ้มได้น้อยลง
แก้มตอบ ทำให้หน้าไม่เรียว จะดูห้อย ต้องลดกรามในตำแหน่งที่ถูกต้องถึงจะเรียวเข้ารูป ทั้งนี้หมอจะตรวจประเมินความเหมาะสมตามรูปหน้าแต่ละเคส
Q : ฉีดโบท็อกแล้วทำ hifu ได้ไหม
A : สามารถทำได้ แต่ควรเว้นระยะห่างหลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วค่อยทำ Hifu เพื่อป้องกันผลกระทบตัวยา รวมถึงผลของโบท็อกจะเริ่มเห็นใน 2 สัปดาห์ ถ้าไม่พอใจสามารถเติม Hifu เพิ่มได้
Q : โบท็อกอเมริกา ต่างจาก โบท็อกเกาหลีอย่างไร
A : โบท็อก Allergan ของอเมริกา บริสุทธิ์มากกว่า ตามข้อมูล โบท็อก Allergan ของอเมริกา บริสุทธิ์ที่สุดคือ 99.5% ครับ ของเกาหลี 98.7%
ยิ่งบริสุทธิ์มากโอกาสในการดื้อยาหลังจากฉีดหลาย ๆ ครั้งก็จะน้อยลง หลังจากที่ใช้ฉีดคนไข้มา พบว่าโบท็อก Allergan ของอเมริกาอยู่ได้นานกว่า ตึงกว่าของเกาหลีธรรมดา 20%
Q : โบท็อก Botulax อยู่ได้กี่เดือน
A : โบท็อก Botulax เป็นโบท็อกที่ผลิตจากประเทศเกาหลีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่โดยทั่วไปโบท็อกเกาหลีจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ซึ่งไม่นานเท่าของอเมริกา
Q : โบท็อกควรฉีดทุกกี่เดือน
A : การฉีดโบท็อกไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทำให้ดื้อโบท็อกได้ โดยปกติควรฉีดโบท็อกเว้นจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (ไม่ควรเว้นเกิน 5 – 6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น
Q : ทำไม ? ฉีด Botox ไม่เห็นผล
A : สำหรับคนไข้ที่ฉีดโบท็อกมาแล้วไม่เห็นผล สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก ใช้โบท็อกปลอม หรือโบท็อกหิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งฉีดครั้งแรก ๆ ก็ได้ผลดี พอครั้งต่อ ๆ มาเริ่มได้ผลน้อยลง เพราะร่างกายเราสร้างภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้น้อยลง
Q : หลังจากฉีดโบท็อก สามารถดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย ได้หรือไม่
A : งดดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนัก ๆ 3 วัน และงดกิจกรรมซาวน่าหรือได้รับความร้อนเยอะ ๆ
Q : ทานยาฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ แก้ปวด มีผลต่อโบท็อกหรือไม่
A : ยาฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ ยาแก้ปวด ไม่มีผลต่อโบท็อกครับ ที่มีการแชร์ในเน็ตว่าโบท็อกเป็นเชื้อมีชีวิต ห้ามกินยาฆ่าเชื้อ เป็นความรู้ที่ผิด โบท็อกเป็นแค่โปรตีน toxin ผลิตจาก bacteria ไม่ใช่ bacteria
Q : มีโอกาสแพ้โบท็อกได้หรือไม่
A : มีโอกาสแพ้ แต่ถ้าแพ้รุนแรงที่สุด มีแค่ผดเล็กๆ ขึ้น ไม่เคยมีแพ้แบบรุนแรง กรณีผดกินยาแก้แพ้ 2-3 วันก็หาย
Q : โบท็อกแท้ดูยังไง
A : จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นโบท็อกของแท้? ต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ หมอเคยเขียน วิธีดูโบท็อกแท้ไว้แล้ว สามารถอ่านได้ในบทความนี้ วิธีดูยาแท้โบท็อก ฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่าง ๆ (Allergan/Nabota/Botulax) ทั้งนี้ ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป ถ้าผสมเป็นน้ำมาแล้ว เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจือจางหรือเข้มข้น
Q : ฉีดโบท็อก ห้ามนอนราบ กี่ชม.
A : หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชม. รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวกระจายไปเยอะขึ้น