โบท็อกรักแร้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะจนรักแร้เปียก มีกลิ่นตัวแรง และยังแก้ปัญหาไม่ได้ การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ลดเหงื่อที่รักแร้ คือทางออกหนึ่งที่สามารถช่วยลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้ดี โดยลดเหงื่อได้มากถึง 80% หลังทำ จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้กลับมามีความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น
เหงื่อออกมาก รักแร้เปียก มีสาเหตุจากอะไร
เหงื่อเกิดจากอะไร ? เหงื่อเกิดจากกระบวนการทำงานของร่างกาย ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสารอาหารที่เราทานไปให้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนและร่างกายก็จะมีกลไกในการระบายความร้อนนั้น ให้ออกมาในรูปแบบของ “เหงื่อ” นั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย
แต่ทีนี้ในบางคนมีเหงื่อออกมากเกินไป อาจทำให้เสียความมั่นใจ เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตได้ครับ ซึ่งวิธีแก้ไขที่หลายคนยังไม่ทราบก็คือการฉีดโบท็อกลดเหงื่อนั่นเอง
โบท็อกรักแร้ ช่วยลดเหงื่อได้อย่างไร
โบท็อกรักแร้ หรือโบท็อกจักแร้ คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด A (Botulinum toxin type A) ข้างละ 50-100 ยูนิต เข้าไปบริเวณรักแร้ 20-30 จุด เพื่อยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อและกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อออกที่ใต้รักแร้ได้กว่า 80% ครับ
ประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างคือ การฉีดโบท็อกรักแร้จะช่วยลดการหมักหมมของแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วยครั
ใครบ้างที่เหมาะสำหรับฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
1.คนที่มีเหงื่อออกเยอะมากเกินไป มีกลิ่นตัว จนกลายเป็นปัญหา
2.คนที่ไม่อยากให้รักแร้เปียกชุ่มจนเห็นเป็นวงบริเวณใต้แขนเสื้อ
3.คนที่ต้องออกงานสังคมบ่อย ๆ ต้องการความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้า
4.คนที่แพ้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว เช่น โรลออน สเปรย์ สติ๊ก และครีม
5.คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว
6.คนที่กลัวเจ็บ กลัวการผ่าตัดต่อมเหงื่อที่รักแร้
7.คนที่ไม่อยากมีรอยแผลเป็นที่รักแร้
ฉีดโบท็อกรักแร้อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากฉีดโบท็อกรักแร้จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ในการที่เหงื่อจะค่อย ๆ ลดลง ในบางคนที่ต้องเจอกับสภาพอากาศร้อนก็อาจจะทำให้การผลิตเหงื่อออกมาเร็วกว่าปกติได้
โดยทั่วไปหากฉีดโบท็อกลดกราม จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึงจะหมดฤทธิ์ ส่วนโบท็อกรักแร้ จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ต่อเนื่องสามารถมาฉีดรักแร้ซ้ำได้
วิธีการดูแลหลังฉีดโบท็อกลดเหงื่อ
หลังฉีดโบท็อกรักแร้ ควรดูแลตัวเองและงดทานอาหารบางประเภท ที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก ในช่วง 14 วันหลังทำ หรือประมาณ 2 อาทิตย์ (หรือควรงดอย่างน้อย 48 ชม.) ดังนี้
1.ดื่มน้ำเยอะ ๆ 1.5-2 ลิตร หลังฉีดโบท็อก รักแร้ เพื่อคงสภาพการออกฤทธิ์ของโบท็อกให้นานที่สุด
2.ห้ามแกะ เกา นวด บริเวณที่ฉีดโบท็อก
3.งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 1 วัน หลังฉีดรักแร้
4.งดทำทรีทเมนต์บริเวณรักแร้ เลเซอร์รักแร้ 2 อาทิตย์
5.งดอบซาวน่า อบตัว หลังฉีดรักแร้ 2 อาทิตย์
6.หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง 2 อาทิตย์
7.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก 2 อาทิตย์
และควรดูแลตัวเองเพิ่มเติม หลังฉีดโบท็อก รักแร้ ดังนี้
1.สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี
2.รักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
3.ดูแลให้เสื้อผ้าที่สวมใส่ให้แห้ง เพื่อลดกลิ่นอับชื้น
4.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน ซึ่งขับเหงื่อและทำให้มีกลิ่นตัวแรง
5.ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน และต่อมเหงื่อที่รักแร้ผลิตเหงื่อออกมากกว่าปกติ
ข้อดี – ข้อควรระวัง ฉีดโบท็อกรักแร้
ข้อดี
1.ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเป็น
2.ช่วยลดปัญหากลิ่นใต้วงแขน
3.ราคาไม่แพง
4.ไม่ต้องเตรียมตัว
5.หลังฉีดโบท็อกจักแร้ ไม่ต้องพักฟื้น ทำแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย
ข้อควรระวัง
1.หากฉีดโบท็อกรักแร้ โดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ คำนวณปริมาณโบท็อกที่ต้องใช้ได้ไม่เหมาะสม หรือไม่รู้เทคนิคการฉีดโบท็อกรักแร้ที่แม่นยำ อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร หรือไม่เห็นผลได้
2.หากฉีดโบท็อกรักแร้กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้โบท็อกของแท้ที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองจาก อย. อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและเป็นอันตรายได้
ข้อแนะนำการเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้องและดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามาถตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น การฉีดโบท็อกปลอมเป็นอันตราย ควรศึกษาวิธีดูโบท็อกแท้เบื้องต้นไว้เพื่อความมั่นใจ
Q&A
Q : โบท็อกอยู่ได้กี่เดือน
A : ฉีดโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน? ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกไม่ได้อยู่ถาวร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-6 เดือน โดยโบท็อกแท้สามารถสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง
Q : โบท็อกกราม อยู่ได้นานแค่ไหน
A : อายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกที่ฉีดโบลดกรามโดยทั่วไป อยู่ได้ 5-6 เดือนครับ หากเป็นโบท็อกริ้วรอย อยู่ได้ 3-4 เดือน
Q : โบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว กี่วันเห็นผล
A : โบท็อกกราม เริ่มเห็นผลตอน 14 วันครับกล้ามเนื้อกรามจะนิ่มลงกัดแล้วไม่เด้ง แต่ยังไม่เห็นว่ายุบ เริ่มเห็นว่ายุบตอน 1 เดือน ยุบเต็มที่ตอน 2-3 เดือน
Q : โบท็อกลดริ้วรอย เห็นผลเมื่อไหร่
A : โบท็อกริ้วรอยปกติจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลตอน 3-7 วันครับ เห็นผลเต็มที่ 14 วัน
Q : ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าจะตอบ จริงหรือไม่
A : โบท็อกลดกรามในตำแหน่งที่ถูกต้องจะไม่ทำให้แก้มตอบครับ ถ้าฉีดไม่ดีแก้มจะตอบ โหนกแก้มเด่นขึ้น และแก้มห้อย หรืออาจทำให้ยิ้มได้น้อยลง
แก้มตอบ ทำให้หน้าไม่เรียว จะดูห้อย ต้องลดกรามในตำแหน่งที่ถูกต้องถึงจะเรียวเข้ารูป ทั้งนี้หมอจะตรวจประเมินความเหมาะสมตามรูปหน้าแต่ละเคส
Q : ฉีดโบท็อกแล้วทำ hifu ได้ไหม
A : สามารถทำได้ แต่ควรเว้นระยะห่างหลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วค่อยทำ Hifu เพื่อป้องกันผลกระทบตัวยา รวมถึงผลของโบท็อกจะเริ่มเห็นใน 2 สัปดาห์ ถ้าไม่พอใจสามารถเติม Hifu เพิ่มได้
Q : โบท็อกอเมริกา ต่างจาก โบท็อกเกาหลีอย่างไร
A : โบท็อก Allergan ของอเมริกา บริสุทธิ์มากกว่า ตามข้อมูล โบท็อก Allergan ของอเมริกา บริสุทธิ์ที่สุดคือ 99.5% ครับ ของเกาหลี 98.7%
ยิ่งบริสุทธิ์มากโอกาสในการดื้อยาหลังจากฉีดหลาย ๆ ครั้งก็จะน้อยลง หลังจากที่ใช้ฉีดคนไข้มา พบว่าโบท็อก Allergan ของอเมริกาอยู่ได้นานกว่า ตึงกว่าของเกาหลีธรรมดา 20%
Q : โบท็อก Botulax อยู่ได้กี่เดือน
A : โบท็อก Botulax เป็นโบท็อกที่ผลิตจากประเทศเกาหลีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องด้วยราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่โดยทั่วไปโบท็อกเกาหลีจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ซึ่งไม่นานเท่าของอเมริกา
Q : โบท็อกควรฉีดทุกกี่เดือน
A : การฉีดโบท็อกไม่ควรฉีดถี่เกินไป เพราะอาจทำให้ดื้อโบท็อกได้ โดยปกติควรฉีดโบท็อกเว้นจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (ไม่ควรเว้นเกิน 5 – 6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้น
Q : ทำไม ? ฉีด Botox ไม่เห็นผล
A : สำหรับคนไข้ที่ฉีดโบท็อกมาแล้วไม่เห็นผล สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก ใช้โบท็อกปลอม หรือโบท็อกหิ้วที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งฉีดครั้งแรก ๆ ก็ได้ผลดี พอครั้งต่อ ๆ มาเริ่มได้ผลน้อยลง เพราะร่างกายเราสร้างภูมิต้านทานมากขึ้น ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้น้อยลง
Q : หลังจากฉีดโบท็อก สามารถดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย ได้หรือไม่
A : งดดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนัก ๆ 3 วัน และงดกิจกรรมซาวน่าหรือได้รับความร้อนเยอะ ๆ
Q : ทานยาฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ แก้ปวด มีผลต่อโบท็อกหรือไม่
A : ยาฆ่าเชื้อ ลดอักเสบ ยาแก้ปวด ไม่มีผลต่อโบท็อกครับ ที่มีการแชร์ในเน็ตว่าโบท็อกเป็นเชื้อมีชีวิต ห้ามกินยาฆ่าเชื้อ เป็นความรู้ที่ผิด โบท็อกเป็นแค่โปรตีน toxin ผลิตจาก bacteria ไม่ใช่ bacteria
Q : มีโอกาสแพ้โบท็อกได้หรือไม่
A : มีโอกาสแพ้ แต่ถ้าแพ้รุนแรงที่สุด มีแค่ผดเล็กๆ ขึ้น ไม่เคยมีแพ้แบบรุนแรง กรณีผดกินยาแก้แพ้ 2-3 วันก็หาย
Q : โบท็อกแท้ดูยังไง
A : จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นโบท็อกของแท้? ต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ หมอเคยเขียน วิธีดูโบท็อกแท้ไว้แล้ว สามารถอ่านได้ในบทความนี้ วิธีดูยาแท้โบท็อก ฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่าง ๆ (Allergan/Nabota/Botulax) ทั้งนี้ ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป ถ้าผสมเป็นน้ำมาแล้ว เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจือจางหรือเข้มข้น
Q : ฉีดโบท็อก ห้ามนอนราบ กี่ชม.
A : หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3 ชม. รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวกระจายไปเยอะขึ้น