ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอย แก้ปัญหา ใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ จะช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้ง
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
1.ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา มีลักษณะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ตา และรอบๆ ดวงตา ทำให้หน้าดูมีอายุ
2.ช่วยแก้ปัญหา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เป็นวงคล้ำรอบดวงตาและจะเห็นชัดบริเวณใต้ตา ทำให้หน้าดูอ่อนล้า
3.ช่วยแก้ปัญหา ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย การมีถุงใต้ตาจะทำให้ปัญหาริ้วรอยและร่องใต้ตาเห็นชัดขึ้น
4.ช่วยแก้ปัญหา เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม
หากแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และที่สำคัญคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถสลายได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ก็มีความปลอดภัยแน่นอน ไม่เป็นอันตราย เพราะบริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่หลายคนกังวลเพราะเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย
ฟิลเลอร์แท้ที่เราฉีดเข้าไปจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวบริเวณนั้น หลังจากฟิลเลอร์สลายหมด จะเหลือเป็นคอลลาเจนและอีลาสตินที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมา ทำให้ผิวก็จะดีกว่าตอนก่อนฉีด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
1.เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา หย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล
2.ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากผ่าตัด
3.ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
4.แก้ปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อ
5.เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม
ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงเห็นผล
แพทย์จะเป็นคนประเมินว่าต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อและรุ่นไหนต้องเติมฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งใช้ปริมาณ CC มาก-น้อย ไม่เท่ากัน
ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้วประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดมาดูผลอีกครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน
อาการบวมหลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ โดยสาเหตุมาจากการที่เข็มเข้าไปในผิว และเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับแพทย์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก็จะลดอาการเจ็บแสบบวมแดง ควรดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ อาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น เข้าที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์
ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์
1.ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกแพทย์ เทคนิคในการทำ วิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจ
2.ยาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
3.งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
4.งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
5.หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
6.แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
7.สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
1.ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2.แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีด
3.ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
4.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
5.ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ส่วนในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว
6.เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์
1.หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
2.หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
3.ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
4.ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
5.อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
6.ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้
– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
– งดอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
– งดอาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
7.งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย
ข้อแนะนำการเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย
1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้องและดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามาถตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอันตราย ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้เบื้องต้นไว้เพื่อความมั่นใจ
Q&A
Q : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม
A : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยและไม่อันตราย หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
Q : ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด
A : ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่เหมาะกับทุกจุดบนใบหน้า ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีหลายรุ่น แต่ละจุดที่ฉีดก็เหมาะกับเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไป แพทย์ที่ทำการฉีดจะต้องประเมินว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตรงจุดไหน และเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Q : ฉีดฟิลเลอร์ บวมไหม กี่วันเห็นผล
A : หลังฉีดฟิลเลอร์ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที อาการบวมจะหายไปเองได้ใน 7 – 14 วัน และรอประมาณ 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จึงจะยุบบวมเข้าที่และเห็นผลชัดเจน