fbpx

Beyond Beauty Clinic

การฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ คือ วิธีรักษาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปเติมเต็มในชั้นผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพ และมีการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น
ฟิลเลอร์จะทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียน เต่งตึง ใบหน้าอ่อนเยาว์ลง บวกกับคุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้

ฟิลเลอร์ คือ

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ใช้ทดแทนส่วนสำคัญของโครงสร้างผิว คอลลาเจนและไฮยาลูรอน ที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น

ผิวหนังของคนเรามีใยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง การที่เส้นใยเหล่านี้ลดลง จะทำให้ผิวบาง เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย เมื่อฉีด Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณที่เป็นร่องริ้วรอย เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม จะทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึงขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จึงสัมพันธ์กับการแก้ปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ อย่างได้ผล

ฟิลเลอร์ฉีดในจุดไหนได้บ้าง

7 จุดที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด
1. ฟิลเลอร์ใต้ตา
2.ฟิลเลอร์คาง
3. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
4. ฟิลเลอร์ปาก
5. ฟิลเลอร์ขมับ
6. ฟิลเลอร์หน้าผาก
7. ฟิลเลอร์จมูก

ฟิลเลอร์ อันตรายไหม

ต้องทราบข้อมูลก่อนว่า ฟิลเลอร์ ชนิดเดียวที่ปลอดภัยที่สุดและผ่านการรับรอง คือ Hyaluronic Acid โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้อนุมัติว่า Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีความปลอดภัย นิยมใช้ในวงการแพทย์และด้านความงามอย่างแพร่หลาย ฉีดแล้วสามารถสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย ในไทยฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ผ่านอย. มีหลายยี่ห้อ แพทย์จะประเมินและเลือกใช้ฟิลเลอร์ตัวที่เหมาะกับบริเวณที่คนไข้ต้องการแก้ปัญหา เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุด

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่หัตถการที่อันตรายหรือมีความเสี่ยงสูง แต่ต้องเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ หมอมีประสบการณ์และใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

1.ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้า
2.เห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
3.มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
4.สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย
5.แก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
6.ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

1.ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกแพทย์ เทคนิคในการทำ วิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจ
2.ยาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
3.งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
4.งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
5.หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
6.แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
7.สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

1.ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2.แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีด
3.ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
4.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
5.ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ส่วนในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว
6.เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

1.หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
2.หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
3.ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
4.ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
5.อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
6.ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้
– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
– งดอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
– งดอาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
7.งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย

ข้อแนะนำการเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้องและดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามาถตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอันตราย ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้เบื้องต้นไว้เพื่อความมั่นใจ

Q&A

Q : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม
A : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยและไม่อันตราย หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

Q : ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด
A : ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่เหมาะกับทุกจุดบนใบหน้า ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีหลายรุ่น แต่ละจุดที่ฉีดก็เหมาะกับเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไป แพทย์ที่ทำการฉีดจะต้องประเมินว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตรงจุดไหน และเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Q : ฉีดฟิลเลอร์ บวมไหม กี่วันเห็นผล
A : หลังฉีดฟิลเลอร์ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที อาการบวมจะหายไปเองได้ใน 7 – 14 วัน และรอประมาณ 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จึงจะยุบบวมเข้าที่และเห็นผลชัดเจน

Scroll to Top