fbpx

Beyond Beauty Clinic

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าที่ใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหารอยร่องแก้มบนใบหน้าจากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งสารสังเคราะห์ที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์ในปัจจุบันมีเพียง “ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid)” เท่านั้น

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใครบ้าง

ผู้ที่มีร่องแก้มลึกมากโดยมักจะลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากการยุบตัวของกระดูกจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ดีอย่างไร

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีข้อดีคือสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ได้อย่างเห็นผลและตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเห็นผลทันที

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่อันตรายหากฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐานด้วยฟิลเลอร์แท้ และแพทย์มีประสบการณ์มากพอ ดังนั้นแพทย์ที่มีประสบการณ์มากพอ จะต้องประเมินสาเหตุของการเกิดร่องแก้มในแต่ละคน เพื่อการแก้ไขร่องแก้มลึกให้ตรงจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติมากที่สุด

ฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องใช้กี่ CC

การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม บางเคสที่อายุเยอะ ๆ ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดจากหลายปัจจัย จึงต้องใช้ฟิลเลอร์จำนวนหลาย cc (บางเคสใช้ 3-4 cc) และอาจจะต้องทำ Hifu หรือร้อยไหมร่วมด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน จะเข้าที่เมื่อไหร่ ? ใช้เวลานานไหม ? จริง ๆ แล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะเห็นผลลัพธ์ทันทีครับ ถ้าต้องรีบใช้หน้าก็สามารถใช้ได้เลย อาจมีอาการบวมบ้างจากเข็มหรือตัวยาเป็นเรื่องปกติ หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

1.ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้า
2.เห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
3.มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
4.สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย
5.แก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
6.ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม

ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

1.ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกแพทย์ เทคนิคในการทำ วิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจ
2.ยาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
3.งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
4.งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
5.หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
6.แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
7.สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

1.ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2.แพทย์แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสม กับจุดที่จะฉีด
3.ทำความสะอาดใบหน้า หากแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็คเครื่องสำอางในจุดที่ฉีดออก
4.ก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า สามารถข้อตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้
5.ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ส่วนในเนื้อฟิลเลอร์จะมียาชาผสมอยู่แล้ว
6.เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

1.หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
2.หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
3.ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
4.ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
5.อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
6.ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้
– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
– งดอาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
– งดอาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
7.งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย

ข้อแนะนำการเลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย

1.เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาติถูกต้องและดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ สามาถตรวจสอบในเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ https://checkmd.tmc.or.th/
3.ต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอันตราย ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้เบื้องต้นไว้เพื่อความมั่นใจ

Q&A

Q : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม
A : ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยและไม่อันตราย หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์แท้ ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

Q : ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด
A : ไม่มีฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนที่เหมาะกับทุกจุดบนใบหน้า ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีหลายรุ่น แต่ละจุดที่ฉีดก็เหมาะกับเนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกันไป แพทย์ที่ทำการฉีดจะต้องประเมินว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตรงจุดไหน และเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Q : ฉีดฟิลเลอร์ บวมไหม กี่วันเห็นผล
A : หลังฉีดฟิลเลอร์ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที อาการบวมจะหายไปเองได้ใน 7 – 14 วัน และรอประมาณ 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จึงจะยุบบวมเข้าที่และเห็นผลชัดเจน

Scroll to Top